สำหรับสินค้าหรือบริการแบรนด์เกิดใหม่ การไปออกบูธตามงานแสดงสินค้า คอนเฟอเรนซ์ หรือเอ็กซ์โปต่าง ๆ เป็นโอกาสดีทีี่จะสร้าง Awareness ทั้งในกลุ่มลูกค้า พาร์ทเนอร์ และตัวแทนจำหน่ายให้ได้รู้จัก ลองสินค้าของแบรนด์ และยังเป็นโอกาสที่จะเก็บ Feedback จากผู้เข้าชมมาปรับปรุงสินค้าและบริการอีกด้วย แต่การออกบูธครั้งหนึ่งก็มีต้นทุนไม่น้อย จะเตรียมตัวยังไงให้ได้ประสิทธิภาพคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด? วันนี้เราจะพาไปดูเช็คลิสต์ 6 สิ่งที่ต้องมีก่อนพาแบรนด์ไปออกบูธ
1. เป้าหมาย
ก่อนตัดสินใจไปออกบูธในงานใดก็ตาม ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องการอะไรจากคนที่มาชมบูธของเรา เช่น ต้องการยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกี่ดาวน์โหลด ต้องการยอดฟอลโลวในโซเชียลมีเดียกี่คน ต้องการยอดขายเท่าไร ต้องการ Feedback จากคนที่มาลองชิมสินค้ากี่คน อยากหาตัวแทนจำหน่ายกี่ราย อยากได้พาร์ทเนอร์กี่ราย อยากสร้างคอนเนคชั่นแบบไหนบ้าง หรือต้องการเข้าถึงพื้นที่สื่อมวลชนมากแค่ไหน เหล่านี้ต้องกำหนดให้ชัดเจน และวางแผนให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไปสู่เป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงการเลือกประเภทของงานที่จะไปออกบูธให้เข้ากับจุดประสงค์ เพราะงานแต่ละงานก็จะมีกลุ่มผู้เข้าชมที่ต่างกันออกไป ควรศึกษาให้ดีก่อนจองบูธ
2. เอกลักษณ์ของบูธ
เวลาเราไปเดินดูงานแสดงสินค้า พอกลับมาก็จะมีอยู่แค่ไม่กี่บูธเท่านั้นที่เราจดจำได้ แบรนด์ไหนที่ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้บูธได้มากพอก็เป็นอันถูกลืมไปในเวลาอันสั้น คงไม่อยากให้แบรนด์ของเราต้องเจอแบบเดียวกันหรอกใช่ไหม นั่นแปลว่าเราต้องสร้างเอกลักษณ์ให้กับบูธเราให้ดี เพื่อเบียดคู่แข่งบูธอื่น ๆ แล้วเข้าไปยึดครองพื้นที่หน่วยความจำอันจำกัดของผู้ชมให้ได้ เช่น สร้างกิมมิกโดยใช้ดีไซน์ที่เตะตา มีการโชว์สาธิตสินค้าตื่นตาตื่นใจ ใช้เกมหรือกิจกรรมให้ผู้ชมมีส่วนร่วม แจกของที่ระลึกให้ผู้ชม เป็นต้น
3. อุปกรณ์ต้องครบและสภาพดี
เตรียมเช็กลิสต์ของอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในบูธให้ดี และนอกจากอุปกรณ์ต้องพร้อมแล้ว สภาพของอุปกรณ์ก็ต้องตรวจตราให้ชัวร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เล็กหรือใหญ่ ราคาถูกหรือแพง จะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือแค่ป้ายก็สำคัญทั้งนั้น เพราะทั้งหมดถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของแบรนด์ ลองคิดดูสิว่าถ้าระหว่างอยู่ในงานอินเทอร์เน็ตดันมาล่ม ไฟล์วิดีโอเปิดไม่ได้ จอเสีย ไมค์ดับ โต๊ะล้มพับ โบรชัวร์หรือนามบัตรหมดเอากลางงาน ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะเป็นยังไง
4. ทีมงานต้องพร้อมทั้งปริมาณและคุณภาพ
จะไปออกงานทั้งที ทีมของคุณมีความพร้อมแค่ไหน คนพอไหม จะแต่งตัวอย่างไร ทุกคนเข้าใจจุดประสงค์ตรงกัน และมีข้อมูลพร้อมตอบคำถามลูกค้าแล้วหรือยัง ถ้าเกิดปัญหาทางเทคนิคขึ้นมา มีคนที่สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ควรตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ ขาดเหลือตรงไหนจะได้แก้ไขทัน ถ้าหากพนักงานมีไม่พอ หรือขาดพิธีกร ก็สามารถจ้าง Outsource มืออาชีพมาเสริมได้
5. การฝึกซ้อมสำคัญมาก
เมื่อรวบรวมทั้งอุปกรณ์และทีมพร้อมแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการฝึกซ้อมทุกคนในทีม ทดลองร่างคำถามที่คาดว่าจะเจอ และร่างคำตอบดี ๆ เตรียมไว้ ฝึกซ้อมพรีเซนต์ให้คล่องแคล่ว วาง Storytelling ให้ดี ฝึกให้แต่ละคนสามารถทำหน้าที่แทนกันได้เผื่อกรณีที่บูธมีคนชุลมุน รวมไปถึงเรื่องพื้นฐานอย่างท่ายืน ท่านั่ง น้ำเสียง ก็ต้องซ้อมให้ดูดีด้วยเหมือนกัน
6. กายใจที่ฟิตปั๋ง
ฟิตร่างกายให้พร้อม พักผ่อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ท้องร่วง เตรียมน้ำดื่มหรือยาอมไว้รอเผื่อต้องพูดมาก เตรียมรองเท้าสวมใส่สบาย เสื้อผ้าที่สามารถลุกนั่งได้คล่องตัว และเตรียมจิตใจให้สดใส พลังเต็มเปี่ยม ต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
มี 6 สิ่งนีี้ครบถ้วน คุณก็พร้อมลุยทุกงาน
ถ้าชอบบทความนี้ สามารถติดตามเคล็ดลับ ความรู้ และบทวิเคราะห์ดี ๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้บริหารได้ที่แอพพลิเคชั่น MatchLink พร้อม Features ดี ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด
Claim Business Page สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณเอง
เข้าถึงลูกค้าและพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ ได้มหาศาล
ดูงบการเงินของทุกธุรกิจทั่วไทย
สร้าง Digital Name Card จัดการนามบัตรผ่านมือถือ
สร้างคอนเนคชันทางธุรกิจได้ง่าย ๆ
ดาวน์โหลด MatchLink ฟรีได้แล้ววันนี้
iOS >>> http://bit.ly/IosDownloadMatchLink
Android >>> http://bit.ly/AndroidDownloadMatchLink
コメント