top of page

“ลด-แลก-แจก-แถม” เลือกจัดโปรโมชั่นอย่างไร ให้เหมาะกับธุรกิจเรา


การจัดโปรโมชั่น ทำได้หลายวิธี มีทั้งลดราคา แลกคะแนนสะสม แจกคูปอง แจกของแถม ฯลฯ ถึงแม้ว่าทุกวิธีจะดึงดูดใจลูกค้าได้เหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพจะต่างกันไป โปรโมชั่นที่ดี ควรเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ลักษณะของสินค้าหรือบริการ เข้ากับภาพลักษณ์แบรนด์ และตรงตามวัตถุประสงค์ มาดูกันว่าโปรโมชั่นแต่ละชนิด เหมาะกับสถานการณ์แบบไหนบ้าง


● ลดราคา

เป็นโปรโมชั่นที่เข้าใจง่ายที่สุด และปรับใช้ได้หลากหลายที่สุด ไม่ว่าจะสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก หรือดีลเลอร์ ก็สามารถมอบโปรลดราคาให้ลูกค้าได้ เหมาะกับการกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น ชักชวนให้ลูกค้าซื้อโดยเร็ว ชักชวนลูกค้ามาลองสินค้าใหม่ รวมถึงระบายของในสต๊อก อย่างไรก็ตาม การลดราคาควรคำนึงถึงภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย ถ้าเป็นแบรนด์พรีเมี่ยม การลดราคามากเกินไป อาจทำให้ดูเป็นสินค้าเลหลัง และทำให้แบรนด์ดูเสียเกรดลงได้


● แจกสินค้าตัวอย่าง

เหมาะสำหรับสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ หรือสินค้าราคาแพงที่คนตัดสินใจซื้อได้ยาก เพื่อชวนให้คนมาลองเป็นครั้งแรกก่อนตัดสินใจ เช่น ขนมขบเคี้ยว กาแฟ กระดาษซับมัน ครีมบำรุงผิว ฯลฯ และอาจนำมาใช้กับธุรกิจบริการได้ด้วย เช่น แจกคูปองคอร์สทดลองเรียนฟรี เป็นต้น โดยควรเลือกทำเลที่จะแจกสินค้าตัวอย่างให้ดี ให้แน่ใจว่าเป็นทำเลที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ


● แจกของแถม

สามารถใช้ได้ทั้งกับธุรกิจสินค้าและบริการ เหมาะสำหรับกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ดึงความสนใจลูกค้าใหม่ให้มาลองใช้ โดยเอาของแถมมาล่อใจ ลูกค้าบางคนอาจเริ่มต้นจากการอยากได้ของแถมที่ดูสวยน่ารัก หรือโปรซื้อ 1 แถม 1 จึงตัดสินใจซื้อ และหากสินค้าของคุณดีจริง ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นลูกค้าประจำต่อไปได้ ดังนั้นควรเลือกของแถมให้เหมาะกับสินค้า และถูกใจกลุ่มเป้าหมาย เช่น ซื้อแชมพูแถมครีมนวดผม ซ้ื้อครีมบำรุงแถมกระเป๋าลายการ์ตูน และถ้าคิดจะใช้โปรซื้อ 1 แถม 1 ก็ควรดูก่อนว่าสินค้านั้นเหมาะสมไหม เพราะของบางอย่างลูกค้าอาจไม่ต้องการถึง 2 ชิ้น ยกตัวอย่างเช่น ราวตากผ้า กรณีแบบนี้ควรเปลี่ยนมาแถมไม้แขวนเสื้อแทนจะดีกว่า


● สะสมแต้ม สะสมแสตมป์

การให้โปรโมชั่นลูกค้าได้สะสมแต้ม สะสมแสตมป์ เพื่อนำแต้มสะสมนั้นไปแลกเป็นส่วนลดหรือของแถมในโอกาสต่อ ๆ ไป เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ ซื้อในปริมาณมากขึ้น หรือซื้อไอเทมที่ร่วมรายการ เหมาะกับสินค้าที่ต้องซื้อบ่อย ๆ เช่น กาแฟ ชานมไข่มุก ร้านอาหาร หรือบริการก็ใช้ได้ เช่น ร้านนวดแผนไทย ร้านทำผม เป็นต้น


นอกจากเลือกโปรโมชั่นให้เหมาะสมแล้ว อย่าลืมควบคุมต้นทุนของโปรโมชั่นให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดด้วย ก่อนจัดโปรโมชั่นใด ๆ ควรกำหนดงบประมาณไว้ให้ชัดเจน แล้วนำงบไปขยายต่อเป็นแผนระยะเวลา จำนวนของแถม หรือจำนวนคูปองต่อไป


ดาวน์โหลดแอพ MatchLink ฟรี หาพาร์ทเนอร์ ลูกค้า และเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ ได้แล้ววันนี้

iOS >>> http://bit.ly/IosDownloadMatchLink

Android >>> http://bit.ly/AndroidDownloadMatchLink


ดู 2,370 ครั้ง

Comments


bottom of page